เทศกาลห่มหมอกกอดหนาว ดูดาวบนภู ชมธรรมชาติในดินแดนผู้กล้า ท้าทายลมหนาวท่ามกลางขุนเขาและมวลพฤกษานานาพันธุ์ ณ สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ

ดร.สุญาณี  เวสสบุตร ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ กล่าวว่า                         สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ จัดเทศกาล “ห่มหมอก กอดหนาว ดูดาว           บนภู”ประจำปี 2559 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558–มกราคม 2559 ชมธรรมชาติในดินแดนผู้กล้า          ท้าทายลมหนาวท่ามกลางขุนเขาและมวลพฤกษานานาพันธุ์ พบกับกิจกรรมนั่งรถอีแต๊กศึกษาธรรมชาติ ชมพื้นที่ประวัติศาสตร์หลุมบังเกอร์ “สงครามบ้านร่มเกล้า” และเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้ง           บ้านร่มเกล้า ชมวิวทะเลหมอกในยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวทัศน์ของ 2 ประเทศ 3 จังหวัด           อันเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว พร้อมกับชมยอดดอยภูสอยดาว                       ที่มีเขตเชื่อมต่อ 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์และ เลย กิจกรรมชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่ส่องแสงสวยงาม โดยเฉพาะหิ่งห้อยน้ำที่สามารถชมได้ในบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ

สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงเป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ ชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศ เช่น กล้วยไม้  ไม้ดอกหอม เป็นศูนย์อนุรักษ์และขยายพันธุ์พืช โดยเฉพาะไม้ประจำถิ่น  ไม้หายาก ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการเรียนรู้ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจและนันทนาการ ท่ามกลางขุนเขาแมกไม้สายหมอก มีความหลากหลายของระบบนิเวศป่า และพรรณพืช ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใดก็ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ เปรียบดั่งห้องสมุดทางธรรมชาติที่เหมาะแก่การเรียนรู้คู่ความเพลิดเพลิน มีการรวบรวมพันธุ์กุหลาบ และกุหลาบพันปี ที่เป็นพันธุ์แท้ที่หายาก รวมถึงพืชผักสมุนไพรพื้นบ้าน พืชที่ใช้ในภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความแตกต่างไปจากคนพื้นราบ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี                         

ในฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับลมหนาวที่พัดพาอากาศอันหนาวเย็น พร้อมกับชมความงามของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี กล้วยไม้หายากที่มีลักษณะดอกคล้ายกับรองเท้าของผู้หญิง และ สร้อยสยาม พันธุ์ไม้หายากพบเฉพาะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพันธุ์ไม้เด่นของสวนฯ มีช่อดอกสีชมพู เป็นสร้อยระย้ายาวสวยงาม ในฤดูร้อน จะพบกับกล้วยไม้ สายพันธุ์ต่างๆ แข่งกันออกดอกบานสะพรั่ง รวมไปถึงพรรณไม้วงศ์จำปีจำปา ที่ส่งกลิ่นหอมรัญจวนไปทั่วทั้งป่ายามค่ำคืน ในฤดูฝน ณ จุดชมวิวค้อเดียวดาย เป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่ ค้อ เป็นพืชหายากตระกูลปาล์ม ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ของลำต้น ทั้งใช้นำมาประกอบอาหารและสร้างที่อยู่อาศัย จึงเป็นพืชที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และควรค่าแก่การอนุรักษ์ นอกจากนี้ ที่จุดชมวิวจะเห็นทะเลหมอก ในยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวทัศน์ของ 2 ประเทศ 3 จังหวัด อันเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว นอกจากนี้ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาทิ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ศูนย์ศิลปาชีพภูขัดฯสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูขัดฯ สถานีทดลองพืชสวนร่มเกล้า อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ และอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางจากอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก ใช้เส้นทาง 11 จากนั้นกลับรถ ใช้เส้นทาง 1296 หน่วยบริการประชาชนบ้านท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ตรงไปเลี้ยวขวาทางแยกหน่วยบริการประชาชนบ้านโป่งแค เส้นทาง 1143 ถึงอำเภอชาติตระการ และใช้เส้นทาง 1237 ผ่ายตำบลบ่อภาค ประมาณ 80 กิโลเมตร ถึงสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ และจากเส้นทางสาย 12 พิษณุโลก – หล่มสัก ถึงสามแยกบ้านแยง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง 2013 เป็นเส้นทางสู่ อำเภอนครไทย ประมาณ 29 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง 1143 อำเภอชาติตระการ จากนั้นใช้เส้นทาง 1237 ผ่านตำบลบ่อภาค ประมาณ 80 กิโลเมตร ถึงสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ ผู้ที่สนใจเข้าเที่ยวชมสวนฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-5531-6715, 08-1287-4994 และ www.qsbg.org

มีบริการเต้นท์  เต้นท์ 2 คน 200 บาท/หลัง/คืน

เต้นท์ 4 คน     350 บาท/หลัง/คืน

ชุดเครื่องนอน  100 บาท/ชุด/คืน

ค่าบริการสถานที่ (นำอุปกรณ์มาเอง)  50 บาท/หลัง/คืน